การทำงานกับ modjk. Table ของ Contents คืออะไร modjk. modjk คือการเปลี่ยน modjserv ผู้สูงอายุเป็น plug-in Tomcat-Apache ที่จัดการการติดต่อสื่อสารระหว่าง Tomcat และ Apache ได้อย่างเต็มที่เหตุผลประการหนึ่งคือปัญหาที่ซับซ้อนเกินไปเนื่องจากเป็น ported จาก Apache JServ นำมาพร้อมกับจำนวนบิตพิเศษเฉพาะของ JServ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้โดย Apache. modjserv สนับสนุนเฉพาะ Apache Tomcat สนับสนุนเว็บเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องผ่านทางเลเยอร์ความเข้ากันได้ซึ่งมีชื่อว่า jk library การสนับสนุนสองรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันกลายเป็นปัญหาในแง่ของการสนับสนุน , เอกสารและแก้ไขข้อบกพร่อง modjk ควรแก้ไขที่วิธีการชั้นโดยห้องสมุด jk ทำให้ง่ายต่อการสนับสนุนทั้ง Apache1 3 x และสนับสนุนที่ดีกว่าสำหรับ SSL modjserv couldn t ระบุได้อย่างน่าเชื่อถือว่ามีการร้องขอผ่านทางหรือ modjk สามารถใช้ โปรโตคอล Ajpv13 ใหม่กว่าหมายความว่าอย่างไรกับฉันคุณจะต้องทำความรู้จักกับกลไกการกำหนดค่าแบบง่ายแบบใหม่ข้อดีคือการเรียนรู้กลไกนี้จะทำให้คุณเริ่มต้นได้ ถ้าคุณต้องการปรับใช้ Tomcat บน Apache และเว็บเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ เช่น Microsoft Internet Information Server IIS และ Web Server Server ของ iPlanet ข้อกำหนดและคำศัพท์ในเอกสารนี้ฉันจะใช้คำไม่กี่คำดังนั้นให้กำหนดค่าเหล่านี้ คนงานเป็นตัวอย่าง tomcat ที่รันเพื่อตอบสนองคำขอเซิร์ฟเล็ตที่มาจากเว็บเซิร์ฟเวอร์ในกรณีส่วนใหญ่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นกระบวนการโพรเซสหนึ่งตัวและเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่บางครั้งคุณจะเรียกใช้พนักงานหลายคนเพื่อให้เกิดการสร้างสมดุลภาระหรือแบ่งไซต์คนงานแต่ละคน การระบุไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์โดยโฮสต์อยู่ที่พอร์ตพอร์ตที่รับฟังและโปรโตคอลการสื่อสารที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อความนี่เป็นงานพิเศษแทนการทำงานกับกระบวนการ Tomcat ที่อาศัยอยู่ในกระบวนการอื่นเว็บเซิร์ฟเวอร์จะเปิด JVM และดำเนินการ Tomcat ภายในพื้นที่เว็บเซิร์ฟเวอร์กระบวนการที่อยู่การสนทนาของเราในเอกสารนี้จะไม่ได้รับในคนพิเศษนี้ Web Server Plug-in Tomcat Redirector. For Tomcat ร่วมมือกับ w จากเว็บเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ ที่จำเป็นต้องมีตัวแทนอยู่ในเว็บเซิร์ฟเวอร์และส่งคำขอ servlet นี้เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ปลั๊กอินและในกรณีของเราเว็บเซิร์ฟเวอร์ปลั๊กอินคือ modjk Redirector มักจะมาในรูปของ DLL หรือ shared object module ที่คุณเสียบเข้ากับเว็บเซิร์ฟเวอร์เราจำเป็นต้องกำหนดค่าปลั๊กอินของเว็บเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้รู้ว่าคนงานของ Tomcat คนไหนบ้างที่สามารถใช้งานได้และจะส่งต่อข้อมูลใดบ้างข้อมูลนี้มาพร้อมกับพารามิเตอร์ภายใน, เช่นระดับการเข้าสู่ระบบประกอบด้วยการกำหนดค่าปลั๊กอินการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์เว็บเซิร์ฟเวอร์แต่ละเว็บมีการกำหนดค่าบางอย่างที่กำหนดลักษณะการทำงานเช่นในพอร์ตที่จะรับฟังไฟล์ที่จะให้บริการอะไรที่เว็บเซิร์ฟเวอร์ปลั๊กอินโหลด ฯลฯ คุณจะต้องปรับเปลี่ยนการกำหนดค่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ของคุณเพื่อสั่งให้โหลดตัวเปลี่ยนเส้นทาง Tomcat modjk การใช้งาน modjk. modjk สามารถทำได้ในสองรูปแบบคือไบนารีและซอร์สโค้ดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่คุณใช้งานเว็บเซิร์ฟเวอร์ของคุณเป็นเวอร์ชันไบนารีของ modjk อาจ พร้อมใช้งานขอแนะนำให้ใช้ไบนารี่เวอร์ชันถ้ามีอยู่ถ้าไม่สามารถใช้ไบนารีได้ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำในการสร้าง modjk จากแหล่งหมายเหตุที่ท้ายส่วนนี้จะให้คำแนะนำสำหรับแพลตฟอร์มที่เฉพาะเจาะจง. binaries สำหรับการ modjk มีอยู่ สำหรับแพลตฟอร์มหลายแห่งในพื้นที่เดียวกับไบนารีที่วางจำหน่าย Tomcat ไบนารีอยู่ในไดเรกทอรีย่อยตามแพลตฟอร์มสำหรับแพลตฟอร์มบางแห่งเช่น Windows นี้เป็นวิธีทั่วไปในการได้รับ modjk เนื่องจากระบบ Windows ส่วนใหญ่ไม่มีคอมไพเลอร์ C สำหรับผู้อื่นไบนารี การแจกจ่ายของ modjk มีการติดตั้งที่ง่ายขึ้นคอนโซลสำหรับ Apache 1 3 สำหรับ API มาตรฐานรวมทั้ง EAPI และสำหรับ Apache 2 0. ใส่ชื่อและระบุไว้สำหรับ Windows รวมทั้งไฟล์ไบนารีที่มีประโยชน์อื่น ๆ ตรวจสอบไซต์สำหรับไบนารีล่าสุด รุ่นของ modjk ไม่ขึ้นอยู่กับรุ่นของ Tomcat Tomcat 3 3 การกระจายตัวของ modjk จะทำงานได้อย่างถูกต้องกับ Tomcat 3 เวอร์ชันอื่นเช่น Tomcat 3 2 1.Buil ding modjk. modjk มีอยู่ในการแจกจ่ายของแหล่งที่มาสำหรับ Windows และแพลตฟอร์มยูนิกซ์ส่วนใหญ่แหล่งที่มาสำหรับ modjk รวมอยู่ในการแจกจ่ายไบนารีของ Tomcat ในไดเร็กทอรี modjk แบบ TOMCATHOME ไดเรกทอรีนี้จัดโดยชื่อและเวอร์ชันของเว็บเซิร์ฟเวอร์แต่ละไดเร็กทอรีมีซอร์สโค้ดเป็น รวมทั้งสคริปต์สร้างไฟล์ที่เหมาะสมสร้างไฟล์หรือไฟล์โครงการสร้าง modjk สำหรับ NT ตัวเปลี่ยนเส้นทางได้รับการพัฒนาโดยใช้ Visual C รุ่น 6 0 ดังนั้นการมีสภาพแวดล้อมนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นก่อนหากคุณต้องการสร้างแบบกำหนดเองขั้นตอนที่คุณ ต้องใช้ is. Change ไดเรกทอรีไป apache1 3 หรือ apache2 0 ไดเรกทอรีต้นน้ำขึ้นอยู่กับรุ่นของ Apache. Set ตัวแปรสภาพแวดล้อม APACHE1HOME ซึ่งชี้ไปที่ Apache ของคุณมีการติดตั้งรันคำสั่งต่อไปนี้ MSDEV ทำให้ทุกอย่างถ้า msdev ไม่ได้ ในเส้นทางของคุณให้ป้อนเส้นทางแบบเต็มไปยังนอกจากนี้คาดว่าจะมีอยู่ในการแก้ไขปัญหา APACHE1HOME src หรือ APACHE1HOME src Release หรือ stars APACHE1HOME src CoreD หรือ APACHE1HOME src CoreR direc ก่อนที่จะเชื่อมโยงจะประสบความสำเร็จคุณจะต้องสร้างเพียงพอของแหล่ง Apache เพื่อสร้าง librarie ต้อง s. คัดลอกไปยังไดเรกทอรี modules Apache s. นี้จะสร้างทั้งปล่อยและแก้ปัญหารุ่นของตัวเปลี่ยนเส้นทาง plug - in modjk. An ทางเลือกจะไป เปิด msdev และสร้างโดยใช้เมนู build. Building modjk สำหรับ Unix ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Apache ของคุณมีการสนับสนุน DSO คุณสามารถตรวจสอบได้ด้วย - l ถ้าคุณเห็น modso c ในเอาท์พุทการสนับสนุน DSO จะพร้อมใช้งานหากหายไปคุณอาจ ต้องคอมไพล์ใหม่หรือติดตั้ง Apache ใหม่ตรวจดูว่า Apache ของคุณมีการสนับสนุน EAPI หรือไม่ถ้าคุณรวบรวมเองจากแหล่ง EAPI อาจไม่ได้รวบรวมไว้เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเพิ่มตัวเองด้วย modssl คุณจำเป็นต้องสร้างโดยใช้ EAPI หรือไม่ก็ได้เพื่อให้ตรงกับ Apache ของคุณ ถ้าคุณติดตั้ง APACHEHOME bin apachectl configtest จะเตือนคุณตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ติดตั้ง Perl 5 สคริปต์ apxs ที่ใช้ในการสร้างโมดูลถูกเขียนลงในไดเร็กทอรี Perl. Change ไปที่ TOMCATHOME modjk apache1 3 หรือ apach e2 0.Build ต่อไปนี้เป็นสามเทคนิคที่คุณสามารถลองเพื่อความเรียบง่ายเรียกใช้สคริปต์สร้างสำหรับแพลตฟอร์มของคุณหากสคริปต์สร้างไม่พร้อมใช้งานสำหรับแพลตฟอร์มของคุณคุณอาจสามารถสร้าง modjk โดยใช้สคริปต์นี้จะกำหนดตัวแปรบางอย่าง apxs ดังต่อไปนี้และพยายามที่จะคัดลอกไปยัง APACHEHOME libexec ถ้าล้มเหลวคุณต้องทำต่อไปนี้ด้วยตนเองตั้ง JAVAHOME ในเปลือกของคุณเช่นตั้ง JAVAHOME usr local jdk1 3 1 ส่งออก JAVAHOME. set APACHEHOME ในเปลือกของคุณเช่นชุด APACHEHOME usr local apache export APACHEHOME. uncomment บรรทัดต่อไปนี้ในไฟล์แทนที่ linux ด้วยชื่อของแพลตฟอร์มของคุณตามที่ระบุในไดเร็กทอรี Java รวมถึงการติดตั้งของคุณ JAVAINCLUDE - I include - I linux. If ล้มเหลวคุณอาจมีโชคดีขึ้นด้วย Makefiles ในไดเร็กทอรีเดียวกันเช่น make - f สุดท้ายคุณสามารถลองสร้างด้วยตนเองได้เรียกใช้คำสั่ง apxs ที่มาพร้อมกับคำแนะนำการจัดจำหน่าย apache ของคุณใน usr local apache bin, usr sbin หรือที่ใดก็ตามที่คุณติดตั้ง apache พิมพ์คำสั่งll ในหนึ่งบรรทัดสำหรับ Linux apxs - o - I jk - I usr local jdk include - I usr local jdk รวม linux - cc jk c การสร้างของคุณอาจล้มเหลวเนื่องจากไฟล์ object จากไดเร็กทอรี jk ได้รับการคอมไพล์ไปยังไดเร็กทอรีปัจจุบัน, แทนที่จะไดเรกทอรีต้นทางเรียกใช้ gcc - shared - oo ควรจะทำ build. Use สคริปต์ดังต่อไปนี้ sh จะสร้างและติดตั้งในไดเร็กทอรี libexec apache ของคุณสคริปต์นี้มีการตั้งค่าสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง Java และ Apache ของคุณตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการตั้งค่าเหล่านี้ไว้ การติดตั้งของคุณการตั้งค่าเริ่มต้นคือ JAVAHOME usr java และ APACHEHOME usr apache ในระบบหากการติดตั้งของคุณแตกต่างกันคุณจะต้องแก้ไขสคริปต์และเปลี่ยนค่าเหล่านี้ให้เหมาะสมดูที่ TOMCATHOME native modjk apache1 3 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหากสร้างสคริปต์ ไม่ทำงานคุณสามารถสร้าง modjk ได้ดังนี้ APACHEHOME bin apxs - o - DSOLARIS - I jk - I usr java รวมถึง - I usr java รวมถึง solaris - cc jk c. Use สคริปต์ดังต่อไปนี้ sh นี้จะสร้างและติดตั้งใน ไดเร็กทอรี apache libexec สคริปต์นี้มีการตั้งค่าสำหรับตำแหน่งที่ตั้ง Java และ Apache ของคุณตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับการตั้งค่าตามการติดตั้งของคุณการตั้งค่าเริ่มต้นคือ JAVAHOME เลือก java1 3 และ APACHEHOME usr apache ในระบบหากการติดตั้งของคุณแตกต่างกันคุณจะต้องแก้ไข script และเปลี่ยนค่าเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสมนอกจากนี้ทราบว่ามีสคริปต์สร้าง HP-UX สองชุดสคริปต์หนึ่งเขียนขึ้นเพื่อสร้าง modjk โดยไม่มีการสนับสนุน JNI โดยใช้ GNU GCC สคริปต์อื่น ๆ สร้าง modjk ด้วยการสนับสนุน JNI แต่สคริปต์นี้ต้องใช้ HP ANSI C Compiler ไม่ใช่ปลั๊กอินที่รวบรวมมาพร้อมกับ HP-UX เพื่อสร้างเคอร์เนล HP Compiler จำเป็นต้องใช้เนื่องจากไลบรารีแชร์ dlopen และ shared library ที่เกี่ยวข้องมีให้สำหรับแอ็พพลิเคชัน 64 บิตเท่านั้นและการคอมไพล์ 64 บิตที่เชื่อถือได้ไม่สามารถใช้งานได้กับ GCC เวอร์ชันปัจจุบัน . สคริปต์ควรใช้งานได้กับ HP-UX 10 00. ดูที่ TOMCATHOME native modjk apache1 3 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ Unixes อื่น ๆ รวมถึง FreeBSD. สคริปต์ ควรแก้ไขได้สำหรับ IRIX และ AIX แก้ไขสคริปต์และเปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้ง APACHEHOME และ JAVAHOME ตามที่ต้องการถ้าคุณใช้ EAPI ให้ลองเพิ่ม - DEAPI ไปยังคำสั่ง apxs หลังจากถ้า apxs ล้มเหลวด้วย apxs คำสั่ง Break Command ล้มเหลวด้วย rc 255 อาจมี ได้รับความเสียหายจาก modssl ค้นหาและเปลี่ยนไปถ้าคุณได้ติดตั้ง Java ในไดเรกทอรีอื่นให้ปรับตามลำดับสำหรับ Unix อื่น ๆ คุณควรจะสามารถใช้งานได้ แต่จำไว้ว่าลำดับของอาร์กิวเมนต์ที่ apxs มีความสำคัญตอนนี้ให้คัดลอก ห้องสมุด modjk cp APACHEHOME libexec โปรดทราบว่าสคริปต์สร้างพยายามที่จะทำเช่นนี้ แต่คุณอาจต้อง su ก่อนอื่น Webservers. There Makefiles หลายในไดเรกทอรีอื่น ๆ ภายใต้ไดเรกทอรี TOMCATHOME พื้นเมือง modjk นอกจากนี้คุณควรตรวจสอบเอกสาร Tomcat สำหรับข้อมูลเฉพาะ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ การกำหนดค่า Apache ส่วนนี้จะกำหนดรายละเอียดการกำหนดค่าที่จำเป็นสำหรับ Apache Web Server เพื่อสนับสนุน modjk. Removing modjserv directives หากคุณเคยตั้งค่าไว้ก่อนแล้ว ured Apache เพื่อใช้ modjserv ลบคำสั่ง ApJServMount ออกจากส่วน If you re includes หรือคุณต้องการจะลบไฟล์เหล่านี้ด้วยเช่นกันพวกเขาเจาะจง modjserv คำสั่ง configure ของ modjserv ไม่สามารถทำงานร่วมกับ modjk ได้กำหนดค่า Apache ให้ใช้ modjk วิธีที่ง่ายที่สุด การกำหนดค่า Apache เพื่อใช้ modjk คือการใช้ Tomcat เพื่อสร้างแฟ้มการกำหนดค่า modjk และใส่คำสั่งต่อไปนี้รวมถึงคำสั่งเมื่อสิ้นสุดไฟล์ Apache ของคุณให้แน่ใจว่าคุณได้แทนที่ TOMCATHOME ด้วยเส้นทางที่ถูกต้องสำหรับการติดตั้ง Tomcat ของคุณซึ่งจะบอกให้ Apache ใช้คำสั่ง ในแฟ้มในการกำหนดค่า Apache ไฟล์นี้ถูกสร้างขึ้นโดยการเริ่มต้น Tomcat ด้วยตัวเลือก jkconf Tomcat จะเริ่มต้นเขียนไฟล์การกำหนดค่าและออกจากนี้ซึ่งอาจทำได้ในขณะที่ Tomcat กำลังทำงานอยู่ตัวเลือกสำหรับควบคุมวิธีการสร้างไฟล์การกำหนดค่า modjk อธิบายไว้ในส่วน Tomcat การกำหนดค่าด้านล่างการกำหนดค่า Tomcat หมายเหตุถ้าคุณต้องการใช้การกำหนดค่าที่สร้างขึ้น Tomcat ให้ข้ามไป ส่วนที่เหลือของส่วนนี้และดำเนินการต่อกับส่วนกำหนดค่า Tomcat การกำหนดค่าส่วนบุคคลสามารถสร้างขึ้นได้โดยการเปิดใช้งานการกำหนดค่าอัตโนมัติและการคัดลอกไฟล์ไปยังไฟล์การกำหนดค่าของคุณเองเช่นการกำหนดค่าพื้นฐานจะเป็นดังนี้คุณจะต้องสั่งให้ Apache เพื่อโหลด Tomcat ซึ่งสามารถทำได้ด้วย LoadModule ของ Apache และ AddModule directives. You กำหนดค่าต้องแจ้ง modjk ตำแหน่งของไฟล์ของคุณใช้ modjk s JkWorkersFile configuration directive คุณควรระบุตำแหน่งที่ modjk กำลังจะวางล็อกไฟล์และระดับการล็อก ที่จะใช้ใช้คำสั่งการกำหนดค่า JkLogFile และ JkLogLevel ระดับของบันทึกที่เป็นไปได้คือข้อผิดพลาดการตรวจแก้จุดบกพร่องข้อมูลและเกิดถ้า JkLogLevel ไม่ได้ระบุไว้ไม่มีการบันทึกสร้างคำสั่ง JkLogStampFormat จะกำหนดค่ารูปแบบวันที่ที่พบใน logfile modjk โดยใช้ strftime format string กำหนดโดยค่าเริ่มต้นเพื่อ abd HMS YA ตัวอย่างง่ายๆจะรวมบรรทัดต่อไปนี้ไว้ในไฟล์ของคุณการกำหนด URL ให้ Tomcat ถ้าคุณมี c reated รุ่นที่กำหนดเองหรือท้องถิ่นของตามที่ระบุไว้ข้างต้นคุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเช่นคนงานหรือคำนำหน้า URL ใช้ modjk ของคำสั่ง JkMount เพื่อกำหนด URL ที่เฉพาะเจาะจงให้กับ Tomcat โดยทั่วไปโครงสร้างของคำสั่ง JkMount ตัวอย่างเช่นคำสั่งต่อไปนี้จะส่ง การร้องขอทั้งหมดที่ลงท้ายด้วยหรือเริ่มต้นด้วยเซิร์ฟเล็ตไปยังผู้ใช้ ajp13 แต่คำขอ jsp ไปยังไฟล์ที่อยู่ใน otherworker จะไปที่ remoteworker คุณสามารถใช้ directive JkMount ที่ระดับสูงสุดหรือภายในส่วน VirtualHost ของไฟล์ของคุณกำหนดค่า Tomcat การเปิดใช้ Apache ของ Tomcat AutoConfig ในกรณีที่ง่ายที่สุด Tomcat สามารถสร้างการกำหนดค่า Apache ที่จำเป็นการติดตั้งเริ่มต้นของ Tomcat ได้รับการกำหนดค่าเพื่อสร้างไฟล์การกำหนดค่าตามความต้องการของ Apache เพื่อใช้ modjk เวลาส่วนใหญ่ที่คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่รวมถึงไฟล์นี้เข้าด้วยกัน ใส่ในของคุณดังที่แสดงในส่วนก่อนหน้าการกำหนดค่า Apache ถ้า Tomcat สร้างแฟ้มการกำหนดค่าเริ่ม Tomcat ด้วยตัวเลือก jkconf Tomcat จะ เริ่มต้นเขียนไฟล์การกำหนดค่าและจากนั้นออกจากการดำเนินการนี้ในขณะที่ Tomcat กำลังทำงานอยู่การสร้างไฟล์การกำหนดค่า modjk จะถูกควบคุมโดยโมดูล ApacheConfig การติดตั้งเริ่มต้นของ Tomcat 3 3 มาพร้อมกับคำสั่ง ApacheConfig ที่มีอยู่แล้ว the. Note การสร้างไฟล์การกำหนดค่า modjk ตามคำขอเป็นรูปแบบใหม่ใน Tomcat 3 3 รุ่นเก่ากว่าของ Tomcat จะสร้างไฟล์ auto-config โดยไม่มีคำสั่งและสร้างขึ้นใหม่ทุกครั้ง Tomcat จะเริ่มต้นคำสั่ง ApacheConfig ใหม่ใน Tomcat 3 3 จะช่วยให้สามารถกำหนดค่าเพิ่มเติมได้ ตัวเลือกต่อไปในส่วนนี้สำหรับ Tomcat เวอร์ชันเก่าโปรดดูเอกสารประกอบที่มาพร้อมกับเวอร์ชันหากคุณมีความต้องการพิเศษตัวอย่างเช่นการติดตั้ง URL prefixes ที่ไม่ใช่ค่าเริ่มต้นคุณสามารถใช้ไฟล์นี้เป็นฐานสำหรับ การกำหนดค่าที่กำหนดเองและบันทึกผลลัพธ์ในไฟล์อื่นหากคุณจัดการการกำหนดค่า Apache ด้วยตัวคุณเองคุณจะต้องอัปเดตทุกครั้งที่คุณเพิ่มบริบทใหม่ ote ที่คุณต้องเริ่มต้น tomcat และ apache หลังจากเพิ่มคอนเท็กซ์ใหม่ apache doesn t สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าโดยไม่ต้องรีสตาร์ทนอกจากนี้ไฟล์จะถูกสร้างขึ้นเมื่อ tomcat เริ่มต้นดังนั้นคุณจะต้องเริ่มต้น Tomcat ก่อนที่ Apache Tomcat จะเขียนทับการเริ่มต้นแต่ละค่าที่กำหนดเองเพื่อให้ควร เก็บไว้ที่อื่นตัวอย่างเช่นคัดลอกไปก่อนทำการเปลี่ยนแปลงคุณจะต้องเริ่มต้น Tomcat ด้วยตัวเลือก jkconf หนึ่งครั้งเพื่อสร้างไฟล์นี้ด้วยการกำหนดค่าของคุณเป็นครั้งแรกนอกจากนี้ยังสามารถระบุตำแหน่งของไฟล์ที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติโดยการตั้งค่าตัวเลือกใน ส่วนต่อไปนี้จะอธิบายถึงไวยากรณ์ที่ตัวเลือกสามารถรวมแอ็ตทริบิวต์ใด ๆ ได้ดังต่อไปนี้: config - โฮมไดเร็กตอรี่หลักสำหรับเส้นทางต่อไปนี้ถ้าไม่ได้ตั้งค่านี้จะเป็นค่าดีฟอลต์เพื่อ TOMCATHOME ละเว้นเมื่อใดก็ตามในเส้นทางต่อไปนี้คือ absolute. jkConfig - สำหรับการเขียนไฟล์ Apache modjk conf ถ้าไม่ได้ตั้งค่า defaults to. workersConfig - เส้นทางไปยังแฟ้มที่ใช้โดย modjk ถ้าไม่ได้ตั้งไว้ defaults to. modJk - เส้นทางไปยังไฟล์ปลั๊กอิน Apache modjk หากไม่ได้ตั้งค่าเริ่มต้นสำหรับ Windows บน netware และทุกที่ else. jkLog - เส้นทางเพื่อล็อกไฟล์ที่จะใช้โดย modjk. jkDebug - การตั้งค่า JK Loglevel อาจมีการแก้ปัญหาข้อมูลข้อผิดพลาดหรือ หากไม่ได้ตั้งค่าเริ่มต้นจะไม่มี log. jkWorker คนที่ต้องการต้องตั้งค่าให้กับหนึ่งในคนงานที่กำหนดไว้ในไฟล์ ajp12, ajp13 หรือประมวลผลเป็นแรงงานที่พบในไฟล์ดีฟอลต์ถ้าไม่ได้ระบุค่าเริ่มต้นเป็น ajp13 ถ้า Ajp13Connector เป็น in use มิฉะนั้นค่าดีฟอลต์คือ ajp12.forwardAll - ถ้าเป็นจริงส่งต่อคำร้องขอทั้งหมดไปยัง Tomcat ซึ่งจะช่วยให้แน่ใจได้ว่าพฤติกรรมทั้งหมดที่กำหนดค่าไว้ในไฟล์จะทำงานได้อย่างถูกต้องถ้าค่าเท็จให้ Apache ให้บริการรีซอร์สแบบคงที่ค่าดีฟอลต์คือ true Warning When false, ในไม่สามารถทำซ้ำใน Apache ตรวจสอบแฟ้ม modjk conf เพื่อดูว่าการตั้งค่าใดที่ถูกตั้งค่าไว้ใน Apache. noRoot - ถ้าเป็นจริงบริบทรากจะไม่ถูกแม็ปกับ Tomcat ถ้า false และ forwardAll เป็นจริงคำขอทั้งหมดไปยังบริบทราก ถูกจับคู่กับ Tom cat ถ้า false และ forwardAll เป็น false เฉพาะ JSP และเซิร์ฟเล็ตที่ร้องขอไปยังบริบท root จะถูกแม็พกับ Tomcat เมื่อ false เพื่อให้สอดคล้องกับบริบท root ของ Tomcat อย่างถูกต้องคุณต้องแก้ไขการตั้งค่า DocumentRoot ในไฟล์ Apache เพื่อชี้ไปยังไดเร็กทอรีบริบท root ของ Tomcat มิเช่นนั้นเนื้อหาบางอย่างเช่น Apache s จะถูกใช้โดย Apache ก่อนที่ modjk จะได้รับสิทธิ์ในการอ้างสิทธิ์และส่งต่อไปยัง Tomcat ค่าดีฟอลต์คือ true หมายเหตุไฟล์ modjk เริ่มต้นที่สร้างขึ้นโดยแตกต่างจากไฟล์ที่สร้างโดย Tomcat 3 2 x ใน Tomcat 3 3 ค่าเริ่มต้นคือการส่งต่อคำขอทั้งหมดไปยัง Tomcat สำหรับคอนเท็กซ์ของ Tomcat เช่น forwardAll true ยกเว้นบริบท root ซึ่งจะช่วยให้แน่ใจได้ว่าพฤติกรรมที่กำหนดค่าไว้ในไฟล์จะทำงานได้ดีการกำหนดค่าที่เหมาะสมที่สุดกับ Tomcat 3 2 x behavior is With this การกำหนดค่าคำขอ JSP และเซิร์ฟเล็ตไปยังบริบทรากจะได้รับจาก Tomcat ROOT webapp คำขออื่น ๆ เช่นไฟล์แบบคงที่จะได้รับจาก Apache s DocumentRoot direc tory ถ้าเอกสาร Apache ของ DocumentRoot ไม่อัพเดตเพื่อชี้ไปยัง Tomcat ROOT webapp บริบทรากจะทำงานผิดปกติตัวอย่างเช่นไฟล์อ้างอิง JSP ของ Tomcat ROOT webapp จะไม่สามารถแสดงได้เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถพบได้ใน Apache s ไดเรกทอรี DocumentRoot การกำหนดค่า Tomcat เพื่อใช้โปรโตคอล Ajpv13 protocol. modjk สามารถใช้โปรโตคอล Ajpv12 หรือโปรโตคอล Ajpv13 เวอร์ชันใหม่โปรโตคอลทั้งสองจะเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้นตัวจัดการการเชื่อมต่อ Ajp13 ใน Tomcat จะให้ประโยชน์กับโปรโตคอลที่เร็วกว่าและความสามารถในการระบุคำขอที่ทำ via. The การติดตั้งเริ่มต้นของ Tomcat 3 3 มาพร้อมกับตัวเชื่อมต่อสำหรับโปรโตคอลทั้งสองแบบในตัวเลือกเริ่มต้นตามคำสั่ง ApacheConfig จะเป็นการใช้งาน ajp13 ซึ่งใช้โปรโตคอล Ajpv13 แม้ว่าจะใช้ modjk Ajpv13 เป็นค่าเริ่มต้น แต่คุณไม่ควรลบ ตัวเชื่อมต่อ Ajpv12 มีอยู่ในไฟล์ตัวเชื่อมต่อ Ajpv12 ยังใช้สำหรับการปิดระบบ Tomcat คนงานมีการกำหนดค่าการใช้ไฟล์มีการจัดการที่ดีในเอกสาร howto และคุณควรดูที่แรกถ้าคุณรีบร้อน แต่คุณอาจจะได้รับไปกับการแก้ไข ไฟล์และการตั้งค่าตัวแปร ps และค่าที่ถูกต้องสำหรับ system. Example Configuration ของคุณนี่เป็นคอนฟิกูเรชันตัวอย่างซึ่งอาจสะท้อนถึงการตั้งค่าจริงในโลกจำนวนมากไซต์ใช้ Tomcat และ Apache กับโฮสต์เสมือนหนึ่งในสองที่ใช้งานได้เช่นกันซึ่ง เราถือว่าสมมติว่ากำลังถูกจัดการโดย modssl. URLs ที่ลงท้ายด้วยและเริ่มต้นด้วย servlet โดย Tomcat ส่วนที่เหลือจะจัดการโดย Apache ไฟล์สำหรับแต่ละ Host คือเซิร์ฟเวอร์ออกจาก web host1 และ web host2 ตามลำดับตัวอย่างมีการใช้งานง่ายกว่าและ ยังไม่สมบูรณ์ แต่ควรให้คุณเริ่มต้นนอกจากนี้ทราบรูปแบบการตั้งค่าโฮสต์เสมือนนี้ใหม่ใน Tomcat 3 3 และต่อมา - ตัวอย่างนี้ได้รับรางวัล t ทำงานกับ Tomcat 3 2 และก่อนหน้านี้ 1 - ตัดตอนมาจากการแสดง Ajp12 และ Ajp13 Connectors. Table 4 - ส่วนที่ตัดตอนมาจาก Apaches ที่แสดง JK directives. Troinstall และ FAQ sQ ฉันจะขอรับความช่วยเหลือได้จาก modjk. A กลไกหลักในการสนับสนุนคือเอกสาร Tomcat ที่รวมอยู่ในไดเร็กทอรีเอกสาร TOMCATHOME เอกสารเหล่านี้สามารถดูผ่านเบราเซอร์ผ่าน Tomcat เอกสารยังมีอยู่ในเว็บไซต์ Apache Jakarta สำหรับ Tomcat at. For ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดคือรายการสนทนาของผู้ใช้ Tomcat คุณควรเริ่มต้นด้วยการค้นหาที่เก็บจดหมายที่อยู่ในหรือก่อนที่คุณจะโพสต์คำถามลงในรายการหากคุณไม่สามารถทำได้ เพื่อค้นหาคำตอบสำหรับคำถามของคุณในที่เก็บถาวรคุณสามารถโพสต์คำถามเกี่ยวกับ Tomcat หรือ modjk ในรายชื่อผู้ใช้เพื่อขอความช่วยเหลือได้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รวมเวอร์ชันของ Apache และ Tomcat ไว้ด้วยซึ่งคุณกำลังใช้งานรวมทั้งแพลตฟอร์มที่คุณใช้อยู่ QI สามารถหา modjk ได้จากทุกที่ Where is it เริ่มต้นด้วย Tomcat 3 3 แหล่งสำหรับ modjk มาพร้อมกับการแจกจ่ายไบนารีในไดเร็กทอรี่ modjk native คุณ ca n ยังดาวน์โหลด Source Distribution ของ Tomcat เพื่อขอรับแหล่งที่มาของ modjk ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับมาในเวอร์ชันก่อน Tomcat 3 3 การแจกแจงไบนารีของ modjk มีอยู่ในตำแหน่งเดียวกับการแจกจ่ายไบนารีของ Tomcat ไฟล์ไบนารีของ modjk มีอยู่ ในไดเรกทอรีย่อยตามแพลตฟอร์ม แต่ในเดือนพฤษภาคม 2001, jakarta-tomcat - ตัวเชื่อมต่อได้เริ่มต้นและคุณจะพบที่นี่ถึงวันที่แนะนำ modjk เช่นโปรโตคอลใหม่ AJP14 WARP. Q โปรโตคอลใดที่ฉันควรใช้ Ajp12 หรือ Ajp13.A Ajp13 เป็นโปรโตคอลใหม่, มันเร็วขึ้นและทำงานได้ดีกับ SSL คุณเกือบจะแน่นอนต้องการใช้มีข้อมูลเพิ่มเติมใน howto document. Q เมื่อใดก็ตามที่ฉันรีสตาร์ท Tomcat, Apache ล็อค up. A Ajp13 โปรโตคอลช่วยให้ซ็อกเก็ตเปิดระหว่าง Tomcat และ Apache ล่าสุด ปล่อย modjk หนึ่งที่พบตั้งแต่ Tomcat 3 3-m2 และ JTC จัดการกับความล้มเหลวของเครือข่าย แต่ด้วยรุ่นก่อนหน้าของ modjk คุณอาจต้องรีสตาร์ท Apache ด้วยเช่นกันไฟล์ Q: ทำไมไฟล์สองไฟล์มีอยู่ - eapi ad - noeapi ใน dir ดาวน์โหลดสำหรับ Linux ลวด Cored Metallurgical หลายรุ่นของ Apache ใช้ API ที่ได้รับการแก้ไขซึ่งรู้จักกันใน API แบบขยายตัวอย่างเช่น Apache ใช้ modssl และ Apache ในการแจกแจงลีนุกซ์บางตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ดังนั้นถ้าคุณมี Extended Apache คุณจำเป็นต้องใช้และใช้สำหรับ Apache มาตรฐานคุณควรหลีกเลี่ยง ใช้โมดูล EAPI บนมาตรฐาน API Apache และโมดูล API มาตรฐานใน EAPI Apache โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีเวอร์ชัน Apache. Q มีข้อความเกี่ยวกับ DSO ที่อ่านไม่ออกเกี่ยวกับ Apache EAPI ข้อความนี้อ่านไม่ออกหรือบางทีนี่อาจเป็น ไม่ใช่โมดูล Apache DSO บอกว่าคุณกำลังพยายามติดตั้งโมดูล DSO ที่รวบรวมไว้ใน Apache โดยใช้ EAPI เช่น Apache-modssl หรือ Apache จาก Redhat distro 6 2 7 0 อย่างไรก็ตามระบบของคุณใช้ Apache มาตรฐานกับปกติ API. Q และข้อความเกี่ยวกับโมดูลอาจเกิดข้อผิดพลาดภายใต้ EAPI. A นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับ EAPI ข้อความเตือนโหลด DSO ใช้ API Apache 1 3 ธรรมดาโมดูลนี้อาจล้มเหลวภายใต้ EAPI โปรดคอมไพล์ใหม่ด้วย - DEAPI ซึ่งรวบรวมไว้ภายใต้ Apache ปกติ กับ STA ndard API และคุณกำลังพยายามติดตั้งโมดูลใน Apache โดยใช้ EAPI. Q ฉันสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้อย่างไรเอกสาร howto มีข้อมูลเชิงลึกมากกว่านี้และคุ้มค่ากับการดูคุณสามารถลองค้นหา จดหมายเหตุรายการจดหมายเวียนสำหรับ modjk หรือดู source. Q APXS กำลังได้รับข้อผิดพลาดระหว่างการสร้าง modjk เช่น rc 0 หรือ rc 255 ฉันได้ลองทำตามขั้นตอนทั้งหมดในส่วน build แล้วฉันจะทำอย่างไรตอนนี้ APXS คือ สคริปต์ Perl ที่สร้างขึ้นเมื่อคุณสร้างเว็บเซิร์ฟเวอร์ Apache จากแหล่งข้อมูลมีโอกาสที่ถ้าคุณได้รับข้อผิดพลาดเหล่านี้และคุณได้รับ Apache เป็นแจกจ่ายไบนารี APXS ที่ไม่ได้รับการกำหนดค่าอย่างถูกต้องสำหรับระบบของคุณทางออกที่ดีที่สุดของคุณคือการเรียกใช้แหล่งที่มาของ Apache จากนั้นสร้างตัวเองใช้ต่อไปนี้เพื่อสร้างพื้นฐานอ่านเอกสาร Apache สำหรับตัวเลือกอื่น ๆ หมายเหตุขั้นตอนข้างต้นสมมติว่าคุณดาวน์โหลดแหล่งที่มาของ Apache แล้ววางไว้ในไดเรกทอรี src src ของท้องถิ่นของ us. Q ทำไมไม่สามารถตรวจสอบรูปแบบของฉันได้ ได้รับข้อผิดพลาดที่คล้ายกัน ข้อความจาก Apache. A หากคุณใช้การกำหนดค่าด้วยตนเองเช่นการใช้ Apache กับ Novell NetWare. unload พื้นที่ที่อยู่ apache2 apache2 เมื่อทำงานร่วมกับ Apache สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าจะหาไฟล์กำหนดค่าได้อย่างไรคุณสามารถระบุไฟล์การกำหนดค่าในคำสั่ง บรรทัดในสองวิธี f - ระบุเส้นทางไปยังการกำหนดค่าเฉพาะ file. apache2 - f vol ของฉันในกรณีเหล่านี้ ServerRoot ที่เหมาะสมควรจะตั้งค่าในแฟ้มการกำหนดค่าถ้าคุณ don t ระบุชื่อไฟล์การกำหนดค่าด้วย - f Apache จะใช้ชื่อไฟล์ที่รวบรวมไว้ในเซิร์ฟเวอร์โดยปกติการเรียกใช้ Apache โดยใช้สวิตช์ - V จะแสดงค่านี้เป็น SERVERCONFIGFILE Apache จะกำหนด ServerRoot โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ในคำสั่งนี้คำสั่ง ServerRoot ผ่านสวิตช์ - C - d สลับกับบรรทัดคำสั่งไดเรกทอรีทำงานปัจจุบันรากของเซิร์ฟเวอร์ที่รวบรวมไว้ใน server เซิร์ฟเวอร์รากรวบรวมลงในเซิร์ฟเวอร์มักจะ sys apache2 เรียก apache กับ - V สลับจะแสดงค่านี้ labele d as. Apache 2 0 สำหรับ NetWare มีชุดคำสั่งบรรทัดคำสั่งที่สามารถใช้เพื่อปรับเปลี่ยนหรือแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอินสแตนซ์ที่กำลังทำงานของเว็บเซิร์ฟเวอร์คำสั่งเหล่านี้ใช้ได้เฉพาะในขณะที่ Apache กำลังทำงานอยู่แต่ละคำสั่งเหล่านี้ต้องมีคำสั่งล่วงหน้า คำสั่ง APACHE2.RESTART สั่งให้ Apache ยกเลิกเธรดของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดเมื่อไม่มีการใช้งานให้อ่านไฟล์การกำหนดค่าใหม่และเริ่มต้นเธรดงานใหม่สำหรับแต่ละงานตามการกำหนดค่าใหม่เวอร์ชั่นแสดงข้อมูลเวอร์ชันเกี่ยวกับอินสแตนซ์ที่กำลังทำงานอยู่ของ Apache MODULES แสดงรายการโมดูลที่โหลด ภายในและภายนอก DIRECTIVES แสดงรายการคำสั่งที่มีอยู่ทั้งหมดการตั้งค่าเปิดหรือปิดการแสดงสถานะเธรดในคอนโซลเมื่อเปิดใช้งานสถานะของเธรดที่ทำงานอยู่จะปรากฏขึ้นในหน้าจอคอนโซลของ Apache SHUTDOWN ยุติการทำงานของเว็บเซิร์ฟเวอร์ Apache HELP อธิบายแต่ละคำสั่งรันไทม์โดยปริยายคำสั่งเหล่านี้จะออกกับ i nstance ของ Apache ที่รันในพื้นที่แอดเดรสของ OS เมื่อต้องการออก directive กับอินสแตนซ์เฉพาะที่เรียกใช้ในพื้นที่แอดเดรสที่มีการป้องกันให้รวมพารามิเตอร์ - p พร้อมกับชื่อของแอดเดรส Space สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมให้พิมพ์ apache2 วิธีใช้บนบรรทัดคำสั่ง Apache คือ กำหนดค่าโดยการอ่านแฟ้มการกำหนดค่าที่เก็บไว้ในไดเรกทอรี conf มักจะเหมือนกับไฟล์ที่ใช้ในการกำหนดค่าเวอร์ชัน Unix แต่มีคำสั่งที่แตกต่างกันเล็กน้อยสำหรับ Apache บน NetWare ดูเอกสารคู่มือ Apache สำหรับคำสั่งทั้งหมดที่มีอยู่ความแตกต่างหลักใน Apache สำหรับ NetWare เนื่องจาก Apache สำหรับ NetWare มีการใช้งานแบบมัลติเธรดจะไม่ใช้กระบวนการแยกต่างหากสำหรับแต่ละคำขอเนื่องจาก Apache สามารถใช้งาน Unix ได้บางส่วนมีเพียงเธรดที่เรียกใช้เธรดหลักและเธรดสำหรับเด็กหรือผู้ใช้หลายคนที่จัดการกับคำขอเท่านั้น ดังนั้นคำสั่งการจัดการกระบวนการจะแตกต่างกัน MaxRequestsPerChild - เหมือนกับคำสั่ง Unix ซึ่งจะควบคุมจำนวนคำขอของพนักงานทอรี d จะให้บริการก่อนออกจากค่าเริ่มต้นที่แนะนำ MaxRequestsPerChild 0 ทำให้เธรดดำเนินการร้องขอการให้บริการต่อไปเรื่อย ๆ ขอแนะนำให้ใช้กับ NetWare เว้นเสียแต่ว่ามีเหตุผลบางอย่างที่คำสั่งนี้ยังคงตั้งค่าเป็น 0.StartThreads - คำสั่งนี้บอกเซิร์ฟเวอร์ว่ามีกี่ตัว เธรดที่ควรเริ่มต้นค่าเริ่มต้นที่แนะนำคือ StartThreads 50.MinSpareThreads - คำสั่งนี้สั่งให้เซิร์ฟเวอร์วางไข่เธรดของผู้ปฏิบัติงานเพิ่มเติมถ้าจำนวนเธรดที่ไม่ได้ใช้งานเคยลดลงต่ำกว่าค่านี้ค่าเริ่มต้นที่แนะนำคือ MinSpareThreads 10.MaxSpareThreads - คำสั่งนี้สั่งให้เซิร์ฟเวอร์ เริ่มต้นการยกเลิกเธรดของผู้ปฏิบัติถ้าจำนวนเธรดที่ไม่ได้ใช้งานเคยเกินค่านี้ค่าเริ่มต้นที่แนะนำคือ MaxSpareThreads 100.MaxThreads - คำสั่งนี้ จำกัด จำนวนเธรดงานทั้งหมดเป็นค่าสูงสุดค่าเริ่มต้นที่แนะนำคือ ThreadsPerChild 250.ThreadStackSize - คำสั่งนี้บอกเซิร์ฟเวอร์ ขนาดของกองที่จะใช้สำหรับแต่ละคน thread ค่าเริ่มต้นที่แนะนำคือ ThreadStackSize 65536 คำสั่งที่ยอมรับชื่อไฟล์เป็นอาร์กิวเมนต์ต้องใช้ชื่อไฟล์ NetWare แทนที่จะใช้ชื่อ Unix อย่างไรก็ตามเนื่องจาก Apache ใช้ชื่อ Unix แบบภายในต้องใช้เครื่องหมายสแลชไปมากกว่าเครื่องหมายทับขวาขอแนะนำให้ใช้เส้นทางไฟล์ที่มีรากฐานทั้งหมด เริ่มต้นด้วยชื่อไดรฟ์ข้อมูลถ้าละเว้น Apache จะถือว่าปริมาณ SYS ซึ่งอาจไม่ถูกต้องแอพพลิเคชันสำหรับ NetWare มีความสามารถในการโหลดโมดูลเมื่อรันไทม์โดยไม่ต้องคอมไพล์ใหม่เซิร์ฟเวอร์ถ้า Apache ถูกคอมไพล์โดยปกติจะติดตั้งโมดูลเสริมหลายโมดูล ในไดเร็กทอรีโมดูล Apache2 เพื่อเปิดใช้งานโมดูลเหล่านี้หรือโมดูลอื่น ๆ ต้องใช้คำสั่ง LoadModule ตัวอย่างเช่นในการใช้งานโมดูลสถานะให้ใช้ข้อมูลต่อไปนี้สถานะโหลดโมดูลัสข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างโมดูลที่สามารถโหลดได้มีอยู่ด้วย ขยาย CGI ไปยังตัวแปลสคริปต์ ConfecListen - เปิดใช้งานการเข้ารหัส SSL สำหรับพอร์ตที่ระบุ NWSSLTrustedCerts - เพิ่ม trus tweed ที่ใช้ในการสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยไปยังเซิร์ฟเวอร์ proxied NWSSLUpgradeable - อนุญาตให้มีการเชื่อมต่อที่สร้างขึ้นในพอร์ตที่อยู่ที่ระบุเพื่ออัพเกรดเป็น SSL connectionpiling Apache ต้องใช้ MetroWerks CodeWarrior 6 x หรือสูงกว่าเมื่อ Apache ถูกสร้างขึ้นแล้วสามารถติดตั้งได้ root ของไดรฟ์ข้อมูล NetWare ใด ๆ ค่าดีฟอลต์คือไดเร็กทอรี sys Apache2 ก่อนที่จะรันเซิร์ฟเวอร์คุณต้องกรอกไดเร็กทอรี conf คัดลอกไฟล์จากไดเร็กทอรี distrib conf และเปลี่ยนชื่อเป็นแก้ไขไฟล์ที่กำลังค้นหาเครื่องหมายค่าทั้งหมดและแทนที่ด้วย การตั้งค่าที่เหมาะสมคัดลอกมายากลและไฟล์เช่นกันการแจกจ่ายแบบสมบูรณ์สามารถสร้างได้โดยการรวมคำหลักติดตั้งไว้เมื่อเรียกใช้ makefiles เครื่องมือการพัฒนาต่อไปนี้จำเป็นต้องสร้าง Apache 2 0 สำหรับ NetWare กำหนดตัวแปรสภาพแวดล้อม NOVELLLIBC ไปที่ ตำแหน่งของไลบรารี NetWare สำหรับ C SDK ตัวอย่างเช่นตั้งค่าตัวแปร METROWERKS สภาพแวดล้อมไปยังตำแหน่งที่คุณ ติดตั้งคอมไพเลอร์ Metrowerks CodeWarrior ตัวอย่างเช่นตั้งค่า METROWERKS C Program Files Metrowerks CodeWarrior ถ้าคุณติดตั้งไปยังตำแหน่งเริ่มต้น C Program Files Metrowerks CodeWarrior คุณไม่จำเป็นต้องตั้งค่านี้ใส่ตัวแปรสภาพแวดล้อม LDAPSDK ไปยังตำแหน่งที่คุณติดตั้ง LDAP ไลบรารีสำหรับ C เช่นกำหนดตัวแปรสภาพแวดล้อม ZLIBSDK ไปยังตำแหน่งที่คุณติดตั้งซอร์สโค้ดสำหรับห้องสมุด ZLib เช่นกำหนดตัวแปรสภาพแวดล้อม APWORK ไปยังพา ธ เต็มของไดเรกทอรีกำหนดตัวแปรสภาพแวดล้อม APRWORK ให้เต็ม เส้นทางของไดเร็กทอรีตรวจสอบให้แน่ใจว่าเส้นทางไปยังอรรถประโยชน์ AWK และยูทิลิตี GNU make ได้รับการรวมอยู่ในตัวแปรสภาพแวดล้อมของระบบ PATH ดาวน์โหลดโค้ดต้นฉบับและคลายซิปลงในไดเร็กทอรีที่เหมาะสมบนเวิร์กสเตชันของคุณเปลี่ยนไดเร็กทอรีและสร้างโดย เรียกใช้ gmake - f nwgnumakefile. Copy ไฟล์ไปยังไดรฟ์ข้อมูล SYS ของเซิร์ฟเวอร์ NetWare และรันโดยใช้คำสั่งต่อไปนี้ SYS genuri sys uridelims h คัดลอกไฟล์ urreim h ไปยังไดเร็กทอรีในเครื่อง build. Change เพื่อสร้าง APR โดยรัน gmake - f nwgnumakefile. Change ไปที่และ build โดยรัน gmake - f nwgnumakefile. Change ไปที่และ build โดยรัน gmake - f nwgnumakefile. Copy ไฟล์ และจากไดเร็กทอรีของตนไปยังไดรฟ์ข้อมูล SYS ของเซิร์ฟเวอร์ NetWare และเรียกใช้งานโดยใช้คำสั่งต่อไปนี้ SYS genchars sys testchar h SYS dftables sys chartables c. คัดลอกไฟล์ testchar h และ chartables c ไปยังไดเร็กทอรีในเครื่อง build. Change directory ไปที่และสร้าง Apache โดยรัน gmake - f nwgnumakefile คุณสามารถสร้างไดเร็กทอรีการแจกจ่ายโดยการเพิ่มพารามิเตอร์การติดตั้งลงในคำสั่งเช่น example. gmake - f nwgnumakefile install. gmake - f nwgnumakefile. Builds ปล่อยเวอร์ชันทั้งหมดของไบนารีและคัดลอกไฟล์เหล่านี้ to a release destination directory. gmake - f nwgnumakefile DEBUG 1.Builds debug versions of all of the binaries and copies them to a debug destination directory. gmake - f nwgnumakefile install. Cre ates a complete Apache distribution with binaries, docs and additional support files in a dist Apache2 directory. gmake - f nwgnumakefile installdev. Same as install but also creates a lib and include directory in the destination directory and copies headers and import files. gmake - f nwgnumakefile clean. Cleans all object files and binaries from the release or debug build areas depending on whether DEBUG has been defined. gmake - f nwgnumakefile clobberall. Same as clean and also deletes the distribution directory if it exists. Download from your nearest mirror site. Please do not download from Use a mirror site to help us save bandwidth and to speed up your download Click here to find your nearest mirror. Apache Server on Windows. For the latest information about Apache server on Windows, including other sources for binaries, see the platform documentation here. The Apache Server Project itself does not provide binary releases of software, only source code Individual committers may provide binary packages as a convenience, but it is not a release deliverable. If you cannot compile the Apache Server yourself, you can obtain a binary package from numerous binary distributions available on the Internet. Popular options for deploying Apache and, optionally, PHP and MySQL, on Microsoft Windows, include. Warning TCP IP networking must be installed. TCP IP must be correctly installed, configured and running in order to install and use Apache on Windows If you use dial-up networking exclusively, you may need to be connected to the internet for Apache to correctly determine that TCP IP is installed. If you are installing Apache on Windows 95, 98, ME or NT 4 0, stop. Read the LEGACY notes first. If you are installing Apache on Windows XP prior to Service Pack 3.Install the Windows XP Service Pack 3 Refer to KB article 317949 if you need the gory details exactly why you must not run the original Windows XP or SP1.Warning about the Quality of Service driver. We suggest disabling the Quality of Se rvice or QoS network driver from Microsoft if you primarily use the machine as an Apache Server, as Apache does not support the QoS extensions to the WinSock API. Warning about Firewall and similar software. Most Firewall programs, Web Spam filters and other TCP IP driver-based products including spyware do not correctly implement the entire WinSock API The shortcuts taken by the developers of such products cause Apache to fail If you insist on leaving such programs installed, and have problems with your Apache installation, consider the suggestion below. If you encounter problems running Apache 2 under Windows, such as corrupted or incomplete file downloads, unexplained error messages, or a conflict with a software firewall, please place the following three directives in your configuration file to see if they eliminate the problems. The general problem is that many people install various add-ons to windows such as software firewalls, virus checkers, etc that break some of the advanced fun ctionality that Apache uses to speed the sending of files The above directives turn off the advanced functionality and make Apache fall back to more basic but slower techniques This resolves most, but not all of the potential problems If you continue to experience problems, be certain that there is no spyware installed on the box, which exhibits exactly the same sorts of flaws often more obviously. If you encounter problems installing Apache distributions, we have provided the TROUBLESHOOTING page to help you diagnose and fix most common installation problems. Do not report configuration or installation questions as bugs. The Apache User Support Mailing List and the newsgroup both provide peer to peer support Pose your question or problem on only one forum at a time If you do not follow these guidelines, your questions and pleas for assistance will likely go unanswered To learn how to get questions answered effectively, you might want to read How to Ask Questions the Smart Way written by Eric S Raymond and Rick Moen - which is a very good primer for end users to learn to pose effective questions to their fellow users and the project s developers NOTE they will only help you learn to ask questions, Eric and Rick do not provide you help with Apache Server. The packages do not contain any cryptographic software, such as OpenSSL, modssl, nor enabled utilities. The package includes an enabled utility, TLS SSL protocol module, and a binary distribution of the specified version of OpenSSL Please review the Cryptographic Software Notice carefully before downloading, using or redistributing this package. Looking for an older version Please, don t There have been a number of essential bug and security fixes with the evolving support for Apache under Win32 Most critically, there were several denial of service, arbitrary code execution and other vulnerabilities affecting Win32 in previous releases Please, avoid all earlier versions That said. Only current, recommended releases are ava ilable from and the mirror sites Older releases, and their corresponding debugging packages, can be obtained from the archive site. You can find a corresponding archive of the debugging databases in the symbols directory, these are typically not needed This archive can be unpacked into the Apache installation directory, providing all of the diagnostic files allowing most Win32 debugging tools and the Dr Watson utility to produce useful crash analysis. You will find the source code package in the source tree The file contains only source and build files, and contains no binary executable files. This binary release was created with Visual Studio 6 0, using a more recent Platform SDK for the ldap api It includes for. If you want to build against OpenSSL, that is available in source code form at. This distribution may include software that has been designed for use with cryptographic software The country in which you currently reside may have restrictions on the import, possession, use, and or re-export to another country, of encryption software BEFORE using any encryption software, please check your country s laws, regulations and policies concerning the import, possession, or use, and re-export of encryption software, to see if this is permitted See for more information. The U S Government Department of Commerce, Bureau of Industry and Security BIS , has classified this software as Export Commodity Control Number ECCN 5D002 C 1, which includes information security software using or performing cryptographic functions with asymmetric algorithms The form and manner of this Apache Software Foundation distribution makes it eligible for export under the License Exception ENC Technology Software Unrestricted TSU exception see the BIS Export Administration Regulations, Section 740 13 for both object code and source code. The following provides more details on the included files that may be subject to export controls on cryptographic software. Apache 2 includes the modssl module under modules ssl for configuring and listening to connections over SSL encrypted network sockets by performing calls to a general-purpose encryption library, such as OpenSSL or the operating system s platform-specific SSL facilities. In addition, some versions of apr-util provide an abstract interface for SSL encrypted network sockets in the files under the directory srclib apr-util ssl that makes use of a general-purpose encryption library, such as OpenSSL or the operating system s platform-specific SSL facilities Apache currently does not use that apr-util interface. Some object code distributions of Apache indicated with the word crypto in the package name, may include object code for the OpenSSL encryption library as distributed in open source form from. The above files are optional and may be removed if the cryptographic functionality is not desired or needs to be excluded from redistribution Distribution packages of Apache that include the word nossl in the package name have been create d without the above files and are therefore not subject to this notice. Setting Up the Apache Web Server Under Linux. by Andy Kahn. This article is basically a summary of my experiences of setting up a web server under Linux I will start with where how to obtain Apache, then move on to installation, configuration, and finally how to get things running This article is written from the point of view of my system, which is a Red Hat 4 0 system with v2 0 25 of the kernel However, a generic installation or a similar setup should apply as well. Where To Get Apache. The obvious place to get the latest version of Apache is off of the Apache web site The source distribution file is while the Linux ELF binaries is Grab what you find is necessary. If you are running Red Hat Linux 4 0 like I am, during the installation process you are allowed to select whether or not you want to install a web server If you do, Red Hat 4 0 includes the latest Apache and installs everything automatically with a default co nfiguration This default configuration even RUNS correctly without any modifications However, even in this case, please read my notes and preferences regarding installation in the next section. Typically, unless you need to add special modules or features, the binary distribution or the default Red Hat installation should be fine However, let s say you wanted to run Apache as a proxy server In this case, you would need the source so you can compile the proxy module as part of the binary. Note I have heard rumors that the binary included with Red Hat 4 0 has some bugs I have yet to encounter any myself, so take that rumor with a big grain of salt. I m not going to cover compiling Apache since it s actually a fairly painless process and pretty well documented Given that, let s move on to actual installation. Personally, I like to group all the web server files together in a centralized location If you are installing this manually, then this is something you can do from the outset, and I highly suggest doing this since it will reduce administration headaches. If you had Apache installed automatically as part of the Red Hat installation procedure, then things will NOT be centralized In fact, I thought the file placement scheme was one of the most confusing I ve ever encountered Here s what the Red Hat installation does. web server binaries. I found this to be really disorganized, so I ended up putting mostly everything under one directory I left the binaries in usr sbin. You sho uld end up with. And then to preserve the original Redhat file locations. Finally, I added this link since I felt that it made more sense. If you are installing and compiling Apache manually, you may want to have the original source files also located under or whichever directory you have. Apache has three main configuration files and If you are running Red Hat 4 0, these files will already be set with the correct directory paths If you centralized the locations of all these files, but made those symbolic links as I mentioned above, things will still be fine since the symbolic links preserves where Red Hat installed everything. If you are doing a generic installation or have some other setup, then you will need to do the following. In change update these directory entries. Essentially, these are the necessary directives in the config files that need to be updated with the new centralized organization. For further configuration options, I will have to give the standard statement, Please refer t o the docs. Starting Running the Web Server. To make a long story short, you simply to need to execute the binary Typically, this is done when the system starts up, in one of the rc files. In Red Hat 4 0, it has more of a System V ish startup style In etc rc d init d resides which is the script used to start and stop You can also execute this by hand if you find the need. For other systems or a manual install , I suggest starting after most other services have started i e put it in A simple line such as. Obviously, it must start after tcp ip networking has been started. Needless to say, I didn t cover actual configuration options and how to manage your web server The configuration options I leave to the Apache manual Managing the web server itself depends on what kind of web site you want to run My own system does not run a real web site in other words, I don t advertise it for anything because it serves no real purpose other than for my own experimentation However, you are more than welcome to take a look at it since it does have a bunch of Linux related links to it The URL can be found at the end of this article. Other than that, I would love to hear any comments and or criticisms you may have about what I wrote Originally, my plan was to write a monthly article about running managing a web server under Linux However, short of actually writing a manual on configuring Apache which the Apache documentation is good enough as a reference , I don t know what else to write about since there may not be all that much to write about. However, one idea for a monthly thing that might be good is to collect hints, tricks, and other useful information related to running a web server under Linux Think of it more as a 2 cent tips for a linux web server If anyone is interested in this, please drop me a note. Copyright 1996, Andy Kahn Published in Issue 12 of the Linux Gazette. This document explains how to connect Tomcat to the popular open source web server, Apache There is actually two ve rsion of Apache, 1 3 and 2 0 and both can be used with modjk, the Tomcat redirector module. It is recommanded that you also read the Workers HowTo document to learn how to setup the working entities between your WebServer and Tomcat Engines. This document was originally part of Tomcat A Minimalistic User s Guide written by Gal Shachor, but has been split off for organizational reasons. Document Conventions and Assumptions. is the root directory of tomcat Your Tomcat installation should have the following subdirectories. conf - Where you can place various configuration files. webapps - Containing example applications. bin - Where you place web server plugins. In all the examples in this document will be var tomcat3 A worker is defined to be a tomcat process that accepts work from the Apache server. The modjk module was developed and tested on. Linux, FreeBSD, AIX, HP-UX, MacOS X, and should works on major Unixes platforms supporting Apache 1 3 and or 2 0.WinNT4 0-i386 SP4 SP5 SP6a should be able to work with other service packs , Win2K and WinXP and Win98.Cygwin until you have an apache server and autoconf automake support tools. iSeries V5R1 and V5R2 with Apache 2 0 39 Be sure to have the latest Apache PTF installed. Tomcat 3 2 x, Tomcat 3 3 x, Tomcat 4 0 x, Tomcat 4 1 x and Tomcat 5.The redirector uses ajp12 and ajp13 to send requests to the Tomcat containers There is also an option to use Tomcat in process, more about the in-process mode can be found in the in process howto. Who support ajp protocols. The ajp12 protocol is only available in Tomcat 3 2 x and 3 3 x. The ajp12 has been deprecated with Tomca t 3 3 x and you should use instead ajp13 which is the only ajp protocol known by Tomcat 4 0 x, 4 1 x and 5.Of course Tomcat 3 2 x and 3 3 x also support ajp13 protocol. Others servlet engines such as jetty have support for ajp13 protocol. How does it work. In a nutshell a web server is waiting for client requests When these requests arrive the server does whatever is needed to serve the requests by providing the necessary content. Adding a servlet container may somewhat change this behavior Now the web server needs also to perform the following. Load the servlet container adapter library and initialize it prior to serving requests. When a request arrives, it needs to check and see if a certain request belongs to a servlet, if so it needs to let the adapter take the request and handle it. The adapter on the other hand needs to know what requests it is going to serve, usually based on some pattern in the request URL, and to where to direct these requests. Things are even more complex when the us er wants to set a configuration that uses virtual hosts, or when they want multiple developers to work on the same web server but on different servlet container JVMs We will cover these two cases in the advanced sections. modjk can be obtained in two formats - binary and source Depending on the platform you are running your web server on, a binary version of modjk may be available. It is recommended to use the binary version if one is available If the binary is not available, follow the instructions for building modjk from source The modjk source can be downloaded from a mirror here. The binaries for modjk are now available, for several platforms, in a separate area as the Tomcat Binary Release The binaries are located in subdirectories by platform. For some platforms, such as Windows, this is the typical way of obtaining modjk since most Windows systems do not have C compilers. For others, the binary distribution of modjk offers simpler installation. For example JK 1 2 5 can be downloaded f rom a mirror here and contains binary version for a variety of operating systems for both Apache 1 3 and Apache 2.modjk requires two entities. - The Apache module, depending on your operating system, it will be modjk, nlm or or see the build section. - A file that describes the host s and port s used by the workers Tomcat processes A sample can be found under the conf directory. Also as with other Apache modules, modjk should be first installed on the modules directory of your Apache webserver, ie usr lib apache and you should update your file. Disabling old modjserv. If you ve previously configured Apache to use modjserv remove any ApJServMount directives from your. If you re including or you ll want to remove them as well - they are specific to modjserv. The modjserv configuration directives are not compatible with modjk. Using Tomcat auto-configure. The simplest way to configure Apache to use modjk is to turn on the Apache auto-configure setting in Tomcat and put the following include directive at the end of your Apache file make sure you replace TOMCATHOME with the correct path for your Tomcat installation. To be added at the end of your. This will tell Apache to use directives in the file in the Apache configuration This file is create d by enabling the Apache auto-configuration as described in the Tomcat documentation. Custom modjk configuration. You should use custom configuration when. You couldn t use since Tomcat engine isn t on the same machine that your Apache WebServer, ie when you have an Apache in front of a Tomcat Farm. Another case for custom configuration is when your Apache is in front of many differents Tomcat engines, each one having it s own configuration, a general case in ISP hosting. Also all Apache webmaster will retain custom configuration to be able to tune the settings to their real needs. Simple configuration example. Here is a simple configuration. Load modjk module. LoadModule jkmodule. Declare the module for IfModule directive. Where to find. Where to put jk logs. Set the jk log level debug error info. Select the log format. JkLogStampFormat a b d H M S Y. JkOptions indicate to send SSL KEY SIZE. JkOptions ForwardKeySize ForwardURICompat - ForwardDirectories. JkRequestLogFormat set the request format. JkRequestLogFormat w V T. Send servlet for context examples to worker named worker1.JkMount examples servlet worker1. Send JSPs for context examples to worker named worker1.JkMount worker1.JkOptions ForwardDirectories is used in conjunction with DirectoryIndex directive of Apache web server As such moddir should be available to Apache, statically or dynamically DSO. When DirectoryIndex is configured, Apache will create sub-requests for each of the local-url s specified in the directive, to determine if there is a local file that matches this is done by stat-ing the file. If ForwardDirectories is set to false default and Apache doesn t find any files that match, Apache will serve the content of the directory if directive Options specifies Indexes for that directory or a 403 Forbidden response if directive Options doesn t specify Indexes for that directory. If ForwarDirectories is set to true and Apache doesn t find any files that match, the request will be forwarded to Tomcat for resolution This is used in cases when Apache cannot see the index files on the file system for various reasons Tomcat is runnin g on a different machine, the JSP file has been precompiled etc. Note that locally visible files will take precedence over the ones visible only to Tomcat i e if Apache can see the file, that s the one that s going to get served This is important if there is more then one type of file that Tomcat normally serves - for instance Velocity pages and JSP pages. The directive JkEnvVar allow you to forward an environment vars from Apache server to Tomcat engine. Assigning URLs to Tomcat. If you have created a custom or local version of as noted above, you can change settings such as the workers or URL prefix. JkMount directive assign specific URLs to Tomcat In general the structure of a JkMount directive is. send all requests ending in to worker1.JkMount worker1. send all requests ending servlet to worker1.JkMount servlet worker1. send all requests jsp requests to files located in otherworker will go worker2.JkMount worker2.You can use the JkMount directive at the top level or inside VirtualHost sections of your file. Configuring Apache to serve static web application files. If the Tomcat Host appBase webapps directory is accessible by the Apache web server, Apache can be configured to serve web application context directory static files instead of passing the request to Tomcat. Caution If Apache is configured to serve static pages for a web application it bypasses any security contraints you may have configured in your web application config file. Use Apache s Alias directive to map a single web application context directory into Apache s document space for a VirtualHost. Static files in the examples webapp are served by apache. Alias examples vat tomcat3 webapps examples. The following line prohibits users from directly access WEB-INF. Location examples WEB-INF AllowOverride None deny from all Location. All JSP will goes to worker1.JkMount worker1. All servlets goes to worker1.JkMount servlet worker1.Starting with modjk 1 2 6, and under Apache 2 0, it s possible to exclude some URL URI from jk processing by setting the env var no-jk for example with the SetEnvIf Directive. You could use no-jk env var to fix problem with modalias or moduserdir directive when jk and alias userdir URLs matches. All URL goes to tomcat except the one containing home. VirtualHost 80 ServerName DocumentRoot www testxxx htdocs. Use SetEnvIf to st no-jk when home is encountered. SetEnvIf RequestURI home no-jk. Now home will goes to home dataxxx. Alias home home dataxxx Directory home dataxxx Options Indexes MultiViews AllowOverride None Order allow, deny Allow from all Directory JkMount myssys-xxx VirtualHost. Use the modjk JkAutoAlias directive to map all web application context directories into Apache s document space. Attempts to access the WEB-INF or META-INF directories within a web application context or a Web Archive within the Tomcat Host appBase webapps directory will fail with an 403, Access Forbidden. Static files in all Tomcat webapp context directories are served by apache. JkAutoAlias var tomcat3 webapps JkMount ajp13 JkMount servlet ajp13.Building modjk for Apache on Windows NT 2K XP. The module was developed using Visual C version 6 0, so having this environment is a prerequisite if you want to perform a custom build. The steps that you need to take are. Change directory to the apache 1 3 or apache 2 0 source directory depending on your version of Apache. If you want to build modjk for Apache 1 3, set an APACHE1HOME environment variable which points to where your Apache 1 3 is installed A modjk module for Apache 2 0 build will require APACHE2HOME environment variable to be set. Copy to Apache s modules directory. An example on how to build modjk for Apache 1 3.Set location for Apache 1 3 sources. Change directory to the modjk module for Apache 1 3.Build the sources using MSDEV. Copy the dll to your apache modules directory. c cp c apache13 modules. An example on how to build modjk for Apa che 2 0.Set location for Apache 2 0 sources. Change directory to the modjk module for Apache 2 0.Build the sources using MSDEV. Copy the dll to your apache modules directory. c cp c apache20 modules. If msdev is not in your path, enter the full path to Also, is expected to exist in the src CoreD and src CoreR directories before linking will succeed You will need to build enough of the Apache source to create these libraries This will build both release and debug versions of the redirector plug-in modjk An alternative will be to open in msdev and build it using the build menu. Building modjk for Apache on iSeries OS400.Since OS400 V4R5, iSeries AS 400 has used Apache 2 0 as their primary web server, replacing the old IBM webserver It s now possible to build modjk on iSeries thanks to the help of the IBM Rochester Labs which has provided information and patches to adapt modjk to OS400.You should have at least Apache 2 0 39, a C Compiler and IFS Apache 2 0 39 is provided with the most recent s et of PTFs for the iSeries Apache server, which can be found at. To configure modjk on iSeries use the CL source provided with the modjk source. Get the latest modjk source and untar it on a Windows or Unix boxes. Create a directory in IFS, ie home apache. Send the whole jk source directory to iSeries directory via FTP. Then go to the iSeries command line. Create modjk library. CRTLIB MODJK TEXT Apache modjk tomcat connector module. Create service program source file. CRTSRCPF MODJK QSRVSRC TEXT Service program source file. Create the CL build program source file. CRTSRCPF FILE MODJK QCLSRC TEXT Build program source file. Edit the service program source file. STRSEU MODJK QSRVSRC MODJK. In the edited file, specify that only jkmodule should be exported. Getting modjk linked statically with Apache. modjk allows to install modjk in the Apache source tree to get a statically linked modjk Having modjk in the executable brings some performance improvements The configure option --with-apache prepare modjk to install it in the Apache source tree The option --with-apache works both for Apache-1 3 and Apache-2 0 The examples below show how to get modjk in the process. Installation in Apache-2 0. is the directory where the sources are located. configure user host. Install the modjk library and other files in. It is not possible to configure Apache directly because the config m4 of modjk must be added to the configure of. cd user host. The enable-jk share and enable-jk static are not supported --with-modjk only allow static linking of modjk. Installation in Apache-1 3. home apache apache1 3 27 is the directory where the apache-1 3 sources are located. configure --with-apache home apache apache1 3 27 user host. Install the libjk library, modjk c, includes and other files in home apache apache1 3 27 src modules jk. Configure in the Apache sources. cd home apache apache1 3 27 user host. configure --enable-module dir --disable-shared dir --activate-module src modules jk libjk a --disable-shared jk user host. The --enable-shared jk is also working and builds a dso file. Just change the configure in the Apache sources. configure --enable-module dir --enable-shared dir --activate-module src modules jk libjk a --enable-shared jk.
No comments:
Post a Comment